เปิดตำนาน! จุดกำเนิดเกม DotA


          ในสมัยก่อนนั้นผมเล่น DotA ครั้งแรกคือเวอร์ชั่นอะไรสักอย่างจำไม่ได้ ตอนนั้นยังเป็นแค่มอดของเกม Warcraft 3 (WC3) อยู่เลย ซึ่งพอมาย้อนมองดูแล้ว DotA นั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปมากเลยทีเดียว วันนี้ผมจึงมาเล่าเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา หรือจุดกำเนิดของ DotA ว่ามันมีที่มายังไงกันแน่


**ก่อนอื่นเลยเรื่องที่ต้องบอกกันก่อนก็คือในตอนแรกนั้นทางมอดนี้มีชื่อว่า DotA ไม่ใช่ Dota ซึ่งถ้าในภาษาคอมพิวเตอร์นั้นมอดตัวนนี้จะมีชื่อว่า "ดอทเอ" อย่างที่เด็กไทยเรียกกันนั่นเอง ไม่ใช่โดต้าที่ใครหลายๆ คนคิดแต่อย่างใด แล้วในปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นชื่อ Dota และทำเป็นเกมแยกต่างหากแล้วมีชื่อว่า "Dota 2" พัฒนาโดยค่ายเกม Valve นั่นเอง


          มาเข้าเรื่องกันเลย ผมคิดว่าใครหลายๆ คนคงคิดว่าต้นกำเนิดของ Dota นั้นคือแมพในเกม Warcraft 3 แต่ที่จริงแล้ว เกมสไตล์ DotA นั้นมีให้เห็นครั้งแรกกับเกม Starcraft ซึ่งแน่นอนว่าเกมจะมาในรูปของ UMS (Use Map Setting) หรือเกมที่สามารถปรับแต่งแผนที่ของการเล่นปกติของเกมได้ ซึ่งแมพที่ว่ามีชื่อว่า Aeon of Strife (AoS) ซึ่งคนสร้างก็คือ Aeon64 รูปแบบของเกมนั้นจะมีผู้เล่น 4 คนช่วยันป้องกันฐาน 4 ทางของตัวเองจากฝูงครีพ (กองทัพที่มารุมตี) ซึ่งฝั่งผู้เล่นนั้นจะมีครีพของตัวเอง ที่อ่อนแอกว่าฝั่งที่มาบุกช่วยป้องกันฐานของเรา สิ่งที่ DotA ได้จากเกมนี้ไปก็คือ การลาส (Last Hit) เนื่องจากใน AoS ผู้เล่นจะได้เงินจากการฆ่าครีพของฝั่งตรงข้าม ซึ่งเกมจะจบลงเมื่อญานของฝั่งใดฝั่งหนึ่งแตก หรือว่าผู้เล่นทั้ง 4 คนตาย ในเวอร์ชั่นต่อมาของ AoS นั้นได้เปลี่ยนให้เป็นการสู้กันระหว่างผู้เล่น 2v2 แทน



ภาพเปรียบเทียบ AoS กับ DotA

          ในวันที่ 2 กรกฎาคม ปี 2002 เกม Warcraft 3: Reign of Chaos (ROC) ได้ทำการเปิดตัวขึ้น ซึ่ง AoS ก็ได้ทำการพอร์ตตัวแมพเข้าไปในเกม สิ่งที่ต่างกันระหว่างแมพใน Starcraft กับ ROC นั้นคือความอิสระในการปรับแต่งแมะ ใน ROC นั่นคือผู้เล่นจะสามารถได้รับเลเวล, มีการอัพสกิลต่างๆ หรือซื้อของในการอัพเกรดตัวละครของเราได้ ซึ่งเราจะเห็นในรูปแบบเกม Dota ในปัจจุบันจากแมพนี้ได้อย่างชัดเจน


แมพสไตล์ AoS นั้นหลังจากถูกพอร์ตมาลงใน ROC แล้วก็มีการพัฒนาขึ้นแบบก้าวกระโดดเนื่องจากตัวเกม ROC นั้นสามารถปรับแต่งสกิลต่างๆ ได้อย่างอิสระ จึงทำให้มีคนนำเอา AoS นั้นไปพัฒนาต่อกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งหนึ่งในพัฒนาที่โดดเด่นคือ Eul เพราะเขาเป็นคนที่นำเอาคอนเซปต์ของ AoS ไปต่อยอดจนออกมาเป็นเกม Defence of the Acient (DotA) ซึ่งดังเป็นกลุแตกใน Battle.net



ภาพ Eul ผู้ให้กำเนิด DotA เป็นคนแรก

          หลังจากนั้นประมาณ 1 ปี Warcraft 3 ก็ได้ทำการออกภาคเสริมใหม่ที่มีชื่อว่า The Frozen Throne (TFT) และ Eul ก็ได้ทำแมพขึ้นมาอีกมีชื่อว่า DotA 2: Thirst for Gamma เมื่อทำออกมาแล้วแต่กลับไ่ประสบความสำเร็จเท่า DotA อันแรก Eul จึงได้ตัดสินใจเลิกพัฒนาแมพ DotA ลงแต่เข้าก็ได้ทิ้งตัว Source Code ของแมพไว้ให้สำหรับนักพัฒนาคนอื่นมาทำต่อ


การจากไปของ Eul ทำให้แมพ DotA เกิดขึ้นมากมาย เช่น DotA DX Series, DotA Unforgiven, และ DotA Outland ซึ่งการปรับแต่งแมพของเหล่าผู้เล่นเกม DotA นั้นทำให้ชื่อ DotA รูู้จักกันไปทั่ว Battle.net จนมาถึงเวอร์ชั่นที่พวกเรารู้จักกันเป็นอย่างดีคือแมพ DotA Allstars นั่นเอง



ภาพหน้าต่าง Loading ของ DotA Allstar

          หลังจากที่แมพ DotA ได้แพร่ไปทั่วโลกนั้น Battle.net ก็ได้มีนักพัฒนาสองคนที่ชื่อ Meian และ Ragn0r ได้เกิดไอเดียสำหรับแมพ DotA ใหม่ โดยที่จะรวบรวมเหล่าฮีโร่ที่เจ๋งๆ ของแมพ DotA ต่างๆ มารวมกันและใช่แมพใหม่นี้ที่ชื่อว่า DotA Allstars มาถึงตรงนี้หลายคนก็อาจจะร้องอ๋อแล้วว่าทำไมแมพต้องมีคำว่า Allstars ต่อท้ายด้วย

ซึ่งเวอร์ชั่นแรก DotA Allstars นั้นถูกปล่อยครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 กุมถาพันธ์ 2004 ใบเวอร์ชั่น Beta v0.95 ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของ DotA ที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน หลังจากนั้นตัวแมพก็ได้รับการปรับปรุงทั้งในด้านความสมดุลของฮีโร่และแนวทางการเล่น

          ในเวลาต่อมาแน่นอนว่าคนที่เล่น DotA ตั้งแต่สมัย 5.8x ต้องคุ้นชื่อ Guinsoo แน่นอนเพราะเขาเป็นหนึ่งในทีมผู้สร้าง DotA Allstars โดย Guinsoo นั้นเริ่มมีบทบาทในการพัฒนาในเวอร์ชั่น 3 และ 4 ซึ่งหลังจากที่เวอร์ชั่น v3.0d ออกมาในเดือนมีนาคม 2004 เพียง 1 เดือนต่อมหลังจากนั้นแมพเวอร์ชั่น v4.0a ก็็ออกมาทันที ในเวอร์ชั่น 4.0a เป็นเวอร์ช่ันแรกที่มี Roshan ซึ่งตั้งตามชื่อลูกโบวลิ่งของ Guinsoo

ภาพของ Guinsoo (คนซ้าย) นักพัฒนา DotA ในช่วงยุค 5.84c

DotA Allstars นั้นได้เดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญในเวอรชั่น 5.xx เพราะเป็นเวอร์ชั่นที่มีการนำเอาไปแข่งขันจริงๆ ในเวอร์ชั่นนี้ได้เพิ่มฮีโร่และไอเทมใหม่ ซึ่งทำให้ตัวเกมนันสนุกขึ้นอย่างมาก เมื่อ DotA Allstars เริ่มเป็นที่นิมยมขึ้นทำให้ Guinsoo คนเดียวไม่สามารถปลอยเวอร์ชั่นใหม่ๆ ออกมาได้ทันตามความต้องการของผู้เล่น Guinsoo จึงตัดสินใจ เรียกตัวสมาชิก 2 คนจาก Clan TDA นั่นคือ Neichus และ Icefrog มาร่วมในทีมพัฒนาด้วย

ภาพแมพ DotA ที่ดังที่สุดคือ DotA Allstars v5.84

เวอร์ชั่นสุดท้ายของตละกูล 5.xx นั่นก็คือ DotA Allstars 5.84c v2 ซึ่งเวอร์ชั่นนี้เรียกได้ว่าเป็นเวอร์ชั่นที่ดังที่สุดเพราะเป็นเวอร์ชั่นที่สมดุลที่สุดและถูกนำไปใช้ในการแข่งขันอย่างจริงจัง และขนาดที่เวอร์ชั่น 6.2x ออกมาแล้วในภูมิภาค SEA ก็ยังคงใช้เวอร์ชั่น 5.84 ในการแข่งขันอยู่


**** รู้หรือไม่ ****

จริงๆ แล้วเวอร์ชั่น 5.84c นั้นไม่ได้ถูกปล่อยออกมาโดย Guinsoo เนื่องจาก 5.84b นั้นบั๊คเยอะมากจนทำให้นักพัฒนาคนนึงชื่อ True.Rus ทนไม่ไหวเอาตัว 5.84b ไปปรับแต่งเอง ซึ่งทำให้ตัวแมพนั้นเร็วขึ้นมากจาก 3 นาทีเหลือเพัียงแค่ 20 วินาทีเท่านั้น

          และต่อมาในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2005 หลังจากที่ DotA Allstars 6.00 ถูกปล่อยออกมาได้ไม่นาน Guinsoo ก็ตัดสินใจอำลาวงการ (ออกไปเข้าร่วมกับ Riot เพื่อพัฒนาเกม League of Legends) ทำให้ Neichus และ Icefrog ทีมงานที่เหลือได้รับช่วงต่อทันทีในเวอร์ชั่น 6.01 ในช่วงต้นของการพัฒนานั้น Neichus ได้เป็นหัวหน้าทีมพัฒนา ซึ่งเขาก็ได้ให้กำเนิกฮีโร่ยอดฮิตขึ้นมาอย่าง Earthshaker, Tiny, Chen 2.0, Stealth Assassin 2.0, Phantom Lancer, Enchantress, Enigma, Axe, Shadow Fiend, Visage 2.0, Nerubian Weaver, Bloodseeker แลพ Dazzle ขึ้น หลังจากที่ทำ DotA อยู่สักพักนึง Neichus ก็เริ่มหมดไฟกับโฟปรเจคนี้เขาจึงตัดสินใจออก และส่งไม่ต่อให้กับ Icefrog ได้เป็นหัวหน้าทีมพัฒนาต่อ

สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นคือแฟนๆ DotA หลายคนยังคงติดตาครึงใจกับความสุดยอดของ DotA 5.84 จนทำให้พวกเขาไม่ยอมที่จะเปิดรับ DotA 6.xx เท่าที่ควร จึงส่งผลให้ความนิยมของ DotA 6.xx ในช่วงต้นนั้นน้อยพอสมควร อย่างไรก็ตามความล้มเหลวนี้ก็ไม่ได้ทำให้ Icefrog เสียกำลังใจแต่อย่างใด เขายังคงเดินหน้าพัฒนา DotA 6.xx ต่อไป


ต่อมา 6.10 ได้เปิดตัวอย่างอลังการ หลังจากที่ Icefrog ได้ทำการยกเครื่องตัวเกมใหม่ เช่น เปลี่ยนสกิล Faceless Void ใหม่หมด รวมไปถึงการส่ง Invoker ที่ตอนนั้นสามารถผสมท่าได้ถึง 31 ท่าด้วยกัน (ปัจจุบันเหลือแค่ 10) นอกจากนี้ในเวอร์ชั่น 6.1x Icefrog ได้ยังทำการแก้ไขบั๊คต่างๆ รวมไปถึงการปรับแต่งให้ตัวเกมดูดีขึ้น และแก้สมดุลของตัวฮีโร่ในเกม



**** รู้หรือไม่ ****
DotA v6.12 นั้นเป็นเวอร์ชั่นแรกที่มีการนำไปแปลเป็นภาษาจีนโดย นาย Heintje ซึ่งส่งผลให้ DotA ในจีนนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

ในวันที่ 1 พฤษจิกายน 2005 Icefrog ได้ปล่อยเวอร์ชั่น 6.20 ออกมาสู้สายตาชาวโลก ซึ่ง Icefrog ได้ทุ่มเททั้งแรงกาย และแรงใจเพื่อทำให้ตัวเกมนั้นมีึความสมดุลมากที่สุดจนออกมาเป็นเวอร์ชั่น 6.27 ในช่วงปลายเดือน พฤศจิกายน (ใช้จนถึง กุมภาพันธ์ 2005) ซึ่ง 6.27b นั้นได้เป็นเวอร์ชั่นที่ 2 ที่ใช้ในการแข่งขัน (เวอร์ชั่นแรกที่ใช่แข่งคือ 5.84) ต่อมาเวอร์ชั่น 6.28 นั้นได้มีการเพิ่มฮีโร่อีก 2 ตัวนั่นก็คือ Spectre กับ Witch Doctor และยังได้เพิ่มคำสั่ง -cs เพื่อเอาไว้ให้ผู้เล่นดูสถิติการฆ่าครีพอีกด้วย

ณ ปัจจุบันนี้ Icefrog ก็พัฒนามาจนทำให้ผู้เล่นหลายคนยกให้เขาเป็น "บิดาแห่ง DotA" ซึ่งเขาได้เป็นผู้นำ DotA ให้เข้าสู้ยุคใหม่ (v6.xx) และได้พัฒนาจนทำให้ DotA กลายเป็นหนึ่งในเกมที่ดังที่สุดของโลก

First
0 Comment